ข้อสรุปของ ข้อสรุปการตรวจราชการของศึกษาธิการจังหวัด บันทึกเมื่อวันที่ Date: 09 มีนาคม 2564
การตรวจราชการกรณีพิเศษ
1. การจัดการเรียนการสอนและมาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID 19)
1.1
มาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนบ้านหัวดง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่เขต
2 ได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID – 19) และรูปแบบและแนวทางการบริหารจัดการการเรียนการสอนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด
เน้นการจำกัดจำนวนผู้เรียน ครูและผู้เกี่ยวข้องที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์ในวงที่แคบและตรวจสอบได้ โดยไม่เกิน 20 คน รวมจำนวนครูและผู้เรียน และมีการเตรียมความพร้อมที่ครอบคลุมด้านการจัดการการป้องกันโรคระบาด
การจัดการเรียนรู้ มีการวางแผนการทำงานร่วมกันเป็นรายสัปดาห์
รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้และพื้นที่ หรือบริเวณที่จะใช้เรียนรู้
เพื่อจะได้กำกับการรักษาความสะอาดและระยะห่างทางสังคมในสถานศึกษา
รวมทั้งการเชื่อมโยงความร่วมมือกับหน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและการสื่อสาร
ชี้แจงทำความเข้าใจ แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง ผู้เรียน
เกี่ยวกับสถานการณ์ความจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่เขต
1 มีการบริหารจัดการในต้นปีการศึกษา 2563 เป็นต้นมาโดยการเตรียมการวางแผน
ตรวจสอบ ประเมินความพร้อมการเปิดสถานศึกษา
โดยจัดเตรียมสถานศึกษาที่อยู่ในสังกัดในการจัดการศึกษา โดยสำรวจข้อมูลในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
อาทิเช่น วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดเรียนการสอน สื่อ ICT ในระดับสถานศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลสารสนเทศระดับเขตพื้นที่
และมีแนวทางบริหารจัดการ ดังนี้
1) จัดทำคู่มือการจัดการเรียนการสอนภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
โดยใช้รูปแบบ COVID Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต ๑
เพื่อส่งให้สถานศึกษาในสังกัดนำไปใช้ตามบริบท
2)
ส่งเสริมการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจากบุคลากรในทุกภาคส่วน
มีการจัดทำคำสั่งระดับเขตพื้นที่ คำสั่งคณะกรรมการศูนย์ COVID
ระดับสถานศึกษา
โดยการมีส่วนร่วมเพื่อให้สถานศึกษามีความพร้อมในการเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยการตรวจสอบและประเมินการดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ใน 6 มาตรการ 44 ข้อ โดยประเมินจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
3)
นำเสนอผลการตรวจสอบประเมินความพร้อมการเปิดสถานศึกษาในวันที่ 1
กรกฎาคม 2563 ให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID 19) ในระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาในการเปิดสถานศึกษาและประกาศใช้มาตรการในสถานศึกษาปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
4)
แจ้งแนวทางมาตรการแนวปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID
19) ของหน่วยงานต้นสังกัดตามประกาศภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID 19)
ให้สถานศึกษาทราบและปฏิบัติภายใต้ระเบียบข้อบังคับอย่างต่อเนื่อง
5) ให้สถานศึกษาติดตามข่าวสาร ประกาศ แนวทางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และถือปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด
6)
ประกาศมาตรการแนวทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID
19)
กำชับและติดตามแนวทางในการปฏิบัติในส่วนของสำนักงานเขตพื้นที่เพิ่มเติมให้สถานศึกษาถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด
ตามห้วงเวลาในสถานการณ์ต่าง ๆ
7)
กำกับ ติดตามให้สถานศึกษารายงานข้อมูล
การจัดการเรียนการสอนในห้วงระยะเวลาที่กำหนดตามสถานการณ์ รายวัน รายเดือน
รายกรณีตามห้วงเวลาที่มีความจำเป็นที่มีการร้องขอให้รายงานจากหน่วยงานต้นสังกัด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามห้วงเวลา
1.2 ผลการดำเนินงาน
โรงเรียนบ้านหัวดง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่เขต
1 ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 อย่างเคร่งครัดตามประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 1 และ
แพร่ เขต 2 ประกาศมาตรการและแนวปฏิบัติเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคและควบคุมการระบาดของโรคผู้เรียน
ครู และบุคลากรที่เกี่ยวข้องในกรณีที่สถานศึกษามีความพร้อมในการเปิดเรียนตามปกติ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่เขต
1 มีผลการดำเนินงานเชิงคุณภาพ ดังนี้
1) โรงเรียนในสังกัดมีการจัดทำ
MOU
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คิดเป็นร้อยละ 100
2) โรงเรียนในสังกัดมีการจัดทำมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับสถานศึกษาโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
รวมถึงหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่และประกาศใช้มาตรการการป้องกันในสถานศึกษา
คิดเป็นร้อยละ 100
3) โรงเรียนในสังกัดปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
คิดเป็นร้อยละ 100
4) โรงเรียนในสังกัดมีรูปแบบนวัตกรรมในการบริหารจัดการ/การจัดการเรียนการสอนตามสถานการณ์และบริบทของสถานศึกษาที่สร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักเรียนต่อผู้ปกครอง
คิดเป็นร้อยละ 5
5) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาศักยภาพในด้านการเพิ่มพูนทักษะในการจัดการเรียนรู้
อย่างน้อยร้อยละ 80 ในช่วงสถานการณ์การเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
6) โรงเรียนในสังกัดรายงานสถานการณ์การเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019รายวันให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่เขต 1 อย่างต่อเนื่อง (4
มกราคม 2564 - ปัจจุบัน)
7) โรงเรียนในสังกัดรายงานการจัดการเรียนการสอนและการดำเนินการตามมาตรการการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ในระบบ ONLINE ของหน่วยงานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง 100 % ในห้วงระยะเวลาที่กำหนด
8) โรงเรียนมีการจัดทำแผนเผชิญเหตุในการเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์ ร้อยละ 100
เชิงคุณภาพ
1)
โรงเรียนในสังกัดจัดการเรียนการสอนได้ตามบริบทของสถานศึกษาได้ทุกแห่ง
2)
โรงเรียนในสังกัดมีการบูรณาการการทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา
3)
โรงเรียนมีนวัตกรรมใหม่เพิ่มขึ้นในการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
4) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
5)
นักเรียนได้รับการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและได้รับการจัดการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
6)นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ
ตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบต่างๆ เช่น
การเรียนการสอนผ่านระบบ ONLINE
ด้วย Application ต่างๆ
7) ครู
บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนในสังกัดไม่มีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัส โคโรนา 2019
1.3 การจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านหัวดง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่
เขต 2 และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่เขต
1 ได้จัดการเรียนการสอนโดยคำนึงถึงรูปแบบและแนวทางการบริหารจัดการเรียนการสอนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด เน้นการเว้นระยะห่าง
จำกัดจำนวนผู้เรียน โดยไม่เกิน 20 คน
รวมจำนวนครูและผู้เรียน และโรงเรียนบ้านหัวดงสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ
ดังนี้
โรงเรียนขนาดใหญ่
รูปแบบการจัดการสอนโดยการสลับชั้นเรียนในระยะแรกแบ่งเป็น
2 กลุ่ม สลับกลุ่มเรียน แบ่งชั้นเรียนสลับวันเรียน สลับสัปดาห์เว้นสัปดาห์
การรักษามาตรการโดยใช้ระยะห่างระหว่างโต๊ะนักเรียน
ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอน ONLINE ใช้โปรแกรม Application MEET , ZOOM , YouTube , TV ONLINE , DLTV และให้ผู้ปกครองรับใบงานบความรู้รับ - ส่ง
รายสัปดาห์ ในการจัดการเรียนการสอนในระยะแรก
หลังจากนั้นมีการจัดการเรียนการสอนในสภาวะปกติ ONSITE โดยการคัดกรองตามมาตรการการป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ในการประกอบกิจกรรมหน้าเสาธงมีการเว้นระยะห่างและการจัดกิจกรรมเป็นระยะๆ
และรักษาตามมาตรการ 44 ข้อ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
โรงเรียนขนาดกลาง
รูปแบบการจัดการสอนโดยการสลับชั้นเรียนในระยะแรกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม สลับกลุ่มเรียน แบ่งชั้นเรียนสลับวันเรียน สลับสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอน ONLINE เช่น TV ONLINE , DLTV และ ใบงานแบบฝึกหัดส่งให้นักเรียนรับ - ส่ง รายสัปดาห์ มีการรักษามาตรการโดยใช้ระยะห่างระหว่างโต๊ะนักเรียน เมื่อเข้าสู่สภาวะปกติ มีการจัดการเรียนการสอนในสภาวะปกติ ON SITE โดยการคัดกรองตามมาตรการการป้องกันอย่างต่อเนื่อง ในการประกอบกิจกรรมหน้าเสาธงมีการเว้นระยะห่างและรักษาตามมาตรการ 44 ข้อ ขโรงเรียนขนาดเล็ก
รูปแบบการจัดการสอนการจัดการเรียนการสอนในสภาวะปกติ
ONSITE
โดยมีการรักษามาตรการโดยใช้ระยะห่างระหว่างโต๊ะนักเรียน
โดยการคัดกรองตามมาตรการการป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ในการประกอบกิจกรรมหน้าเสาธงมีการเว้นระยะห่างและรักษาตามมาตรการ 44 ข้อ
ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
1.4
ปัญหาอุปสรรค
1. นักเรียนขาดความพร้อมในด้านอุปกรณ์ในการจัดการเรียนรู้
สาเหตุจากหลากหลายปัจจัยเช่น
การขาดความพร้อมของอุปกรณ์ในการรับชม ขาดทีวี ขาดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล
2.
ผู้ปกครองขาดการดูแลและระยะเวลาในการดูแลบุตรหลาน เนื่องจากต้องออกประกอบอาชีพ
3. ผู้ปกครองเป็นผู้สูงอายุไม่มีความรู้และความพร้อมในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่บุตรหลาน
4. ผู้ปกครองขาดความเชื่อมั่นในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของโรงเรียน
5.
การเดินทางโดยรถโดยสารรับส่งนักเรียนที่โดยสารประจำวันในการเดินทางการเรียนไม่สามารถควบคุมได้
6. หน่วยงานต้นสังกัด
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการต้องการข้อมูลที่ซ้ำซ้อน
ขาดการบูรณาการในการใช้ข้อมูล
7. งบประมาณในการจัดซื่อวัสดุ
อุปกรณ์ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID – 19)
ไม่เพียงพอ
8. ในช่วงการจัดการเรียนการสอนออนไลน์
การเรียนผ่านระบบออนไลน์ มีปัญหาเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารในเรื่องการทำใบงาน
ทางโรงเรียนจึงแก้ปัญหาด้วยการสร้างกลุ่มไลน์ผู้ปกครองในแต่ละชั้นเรียน
เพื่อติดต่อสื่อสารระหว่าง ครู เด็กนักเรียน และผู้ปกครอง และบางกรณีที่มีนักเรียนอาศัยอยู่กับ
ผู้ปกครอง ที่เกี่ยวข้องเป็นปู่ ย่า ตา
ยา ผู้สูงวัยที่ไม่สามารถติดต่อสื่อสารทางออนไลน์ได้
ทางโรงเรียนแนะนำให้เด็กไปเรียนทางออนไลน์ร่วมกับเพื่อนที่มีพื้นที่บ้านใกล้เคียงได้รวมกัน
ไม่เกิน 3 คน และการจัดส่งเอกสารใบงาน ในแต่ละสัปดาห์
คุณครูประจำชั้นจะนำเอกสารไปแจกให้กับนักเรียนที่บ้านโดยสลับนำเอกสารเดิมของสัปดาห์ก่อนหน้าแลกเปลี่ยนกับการนำแจกเอกสารของสัปดาห์นั้นให้กับนักเรียน
1.5
ข้อเสนอแนะ
1. แก้ไขการรายงานในระบบ
http://www.covid.moe.go.th/
ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้
เพื่อลดภาระงานของสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดในการรายงานซ้ำซ้อน
และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้
2. สำรวจและให้การช่วยเหลือสื่อ
อุปกรณ์ในการเข้าถึงเช่น มอบ TV กล่องรับชมสัญญาณดิจิทัลแก่นักเรียนที่ด้อยโอกาสเพื่อเป็นการแก้ไขเบื้องต้น
3.
สร้างความมั่นใจแก่ผู้ปกครองในการจัดการเรียนรู้ ด้วยการเยี่ยมบ้านและจัดทำสื่อ
ใบงานในการจัดการเรียนรู้
4.
สร้างความตระหนักในการรักษามาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
5. จัดให้มีบุคลากรเจ้าหน้าที่ออกนิเทศติดตามและร่วมติดตั้งอุปกรณ์สื่อในการเข้าถึงการจัดการเรียนรู้องกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
6.
พิจารณาในเรื่องการจัดสรรงบประมาณในการจัดซื่อวัสดุ อุปกรณ์ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)
7. ขับเคลื่อน ส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
เช่น กิจกรรมธนาคารใบไม้โดย
ร่วมกับประชาชนในหมู่บ้านพัฒนาเป็นแหลงเรียนรู้เรื่องการเกษตรปลอดการเผา ในเขตชุมชน และการประสานบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่โดยกระทรวงมหาดไทยสำนักงานจังหวัดในการสร้างความตระหนักและมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์
รักษาส่งแวดล้อมแประชาชนในพื้นที่
บันทึข้อมูลโดย: นางสาวบุษบาสุกแก้ว