ข้อสรุปของ ข้อสรุปการตรวจราชการของศึกษาธิการภาค บันทึกเมื่อวันที่ Date: 01 กรกฎาคม 2564

สรุปผลการตรวจราชการตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รอบที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และติดตามการจัดการเรียนการสอนตามมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) วันที่ 28 มิถุนายน 2564

สรุปผลการตรวจราชการตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผล

การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รอบที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

และติดตามการจัดการเรียนการสอนตามมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ของ นายวัลลพ  สงวนนาม ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ

ในวันที่ 28 มิถุนายน 2564

ณ จังหวัดชุมพร

--------------------------------------

          ตามที่ นายวัลลพ สงวนนาม ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รอบที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และติดตามการจัดการเรียนการสอนตามมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา
2019 (COVID-19) ของหน่วยงานการศึกษาในเขตตรวจราชการที่ 5 ในวันที่ 28 มิถุนายน 2564
ณ จังหวัดชุมพร นั้น กลุ่มตรวจราชการและติดตามประเมินผล สำนักงานศึกษาธิการภาค 5 สามารถสรุปผล
เป็น 2 ประเด็น คือ 1. การดำเนินการด้านการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และ 2. การได้รับการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้

1. การดำเนินการด้านการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

                1.1 โรงเรียนทุกสังกัดผ่านการประเมินความพร้อมของระบบ Thai Stop Covid Plus (TSCP+) และดำเนินการตาม 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่ เว้นระยะห่าง (Distancing) ใส่หน้ากาก (Mask Wearing)
ล้างมือ (
Hand Washing) คัดกรองไข้ (Testing) ลดการแออัด (Reducing) และทำความสะอาด (Cleaning) และ 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ได้แก่ ดูแลตนเอง (Self Care) ช้อนกลางส่วนตัว (Spoon) อาหารปรุงสุกใหม่ (Eating) ไทยชนะ (Thai Chana) สำรวจตรวจสอบ (Check) และกักกันตัวเอง (Quarantine)

                .2 โรงเรียนเปิดเรียน วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ในรูปแบบ On Site แต่ในวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ศบค.จังหวัดชุมพรมีคำสั่งให้โรงเรียนทุกแห่งหยุดการจัดการเรียนการสอนแบบ On Site ต่อมาโรงเรียน
บางแห่งที่มีความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
เริ่มทยอยเปิดเรียน
ในรูปแบบ On Site

          1.3 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเน้นย้ำให้ผู้บริหารโรงเรียน ดำเนินการดังนี้

1) วิเคราะห์สถานการณ์ภายในโรงเรียน จัดทำแผนป้องกัน และแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ครูและบุคลากรในโรงเรียนได้ถือปฏิบัติอย่างจริงจัง

2) จัดเก็บข้อมูลการเดินทางของผู้ปกครอง ครอบครัว และคนใกล้ชิดของนักเรียน เพื่อจะได้ทราบความเสี่ยงในการติดเชื้อของนักเรียน และป้องกันการแพร่เชื้อได้ทัน กรณีมีนักเรียนติดเชื้อ

          1.4 โรงเรียนศรียาภัย อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
สุราษฎร์ธานี ชุมพร
จัดการเรียนการสอนแบบ Online ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นรูปแบบที่รวมถึงการกำกับ ติดตาม การวัดและประเมินผล และรายงานผลการสอนของครูด้วย โรงเรียนมีการพัฒนาครูให้มีความรู้ในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Online และการติดตามช่วยเหลือนักเรียนที่ไม่มีความพร้อมในการเรียนรูปแบบ Online เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

      วันที่ 1-2 กรกฎาคม 2564 โรงเรียนจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Blended Learning (Online+ On Site) โดยให้นักเรียนสลับกันมาเรียนตามเลขที่คี่ - คู่

      วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โรงเรียนจัดการเรียนการสอนรูปแบบ On Site นักเรียนทุกคนมาเรียนที่โรงเรียน

1.5 ศบค. จังหวัดชุมพร กำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 (รูปแบบ On Site) ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564

          1.6 ปัญหา อุปสรรค

               1) ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแล ช่วยเหลือบุตรหลานในเรื่องการเรียน เนื่องจากต้องทำงานในช่วงเวลาที่บุตรหลานเรียนออนไลน์

               2) นักเรียนขาดอุปกรณ์เทคโนโลยีในการเรียนออนไลน์

               3) วิธีการสอนของครูในรูปแบบออนไลน์ ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้

               4) ครูบางคนขาดทักษะการใช้งานแอพลิเคชั่นในการสอนออนไลน์

2. การได้รับการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

          2.1 บุคลากร (ครู บุคลากรในโรงเรียนและหน่วยงาน) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัดชุมพร
มีจำนวน
6,420 คน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 364 คน คิดเป็นร้อยละ 5.67 โดยมีผู้ไม่ประสงค์รับวัคซีน จำนวน 97 คน คิดเป็นร้อยละ 1.51 ทั้งนี้ สามารถจำแนกเป็นรายหน่วยงานได้ดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2564)

 

หน่วยงาน

จำนวนครู บุคลากร
ในโรงเรียน
และหน่วยงาน

ผู้ได้รับวัคซีนแล้ว

ผู้ไม่ประสงค์
รับวัคซีน

จำนวน

ร้อยละ

จำนวน

ร้อยละ

1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)

3,648

169

4.63

51

1.40

2. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.)

1,070

1

0.09

-

-

3. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.)

208

2

0.96

-

-

4. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช,)

785

106

13.50

-

-

5. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)

536

35

6.53

-

-

6. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)

142

26

18.31

42

29.58

7. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชุมพร (ศธจ.ชุมพร)

31

25

80.65

4

12.90

 

 

2.2 การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ของบุคลากร (ครู บุคลากรในโรงเรียนและหน่วยงาน) และนักเรียน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัดชุมพร พบผู้ติดเชื้อเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน
3 คน และนักเรียน จำนวน 3 คน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 และสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ขณะนี้ครู
และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3 คน รักษาหายและออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนนักเรียน จำนวน 3 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2564)

ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ

      1) สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชุมพร ต้องประสานและซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานราชการ
ในพื้นที่ ในการดำเนินการตามมาตรการการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง มีการจัดทำแผนเผชิญเหตุ และมีการรายงานข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

               2) โรงเรียนควรประเมินความพร้อมของระบบ Thai Stop Covid Plus (TSCP+) อย่างจริงจังใน
ทุกเดือน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ตลอดเวลา

               3) หน่วยงานต้นสังกัดและโรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนมากที่สุด
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) และมีการติดตาม ประเมินผลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ไม่เข้มข้นมากนัก

       

 

 

 

          


 บันทึข้อมูลโดย: