ข้อสรุปของ ข้อสรุปการตรวจราชการของศึกษาธิการภาค บันทึกเมื่อวันที่ Date: 07 มิถุนายน 2564
สรุปผลการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
นโยบายการตรวจราชการเฉพาะด้าน
(Agenda Based) ประเด็นการเข้าถึงทางการศึกษาสำหรับคนพิการ
และผู้ด้อยโอกาส ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในเขตตรวจราชการที่ 5
ของ นายธฤติ ประสานสอน ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
----------------------------------------
ตามที่ นายธฤติ ประสานสอน
ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ตามนโยบายการตรวจราชการเฉพาะด้าน
(Agenda Based)
ประเด็นการเข้าถึงทางการศึกษาสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาส ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
2564 ในเขตตรวจราชการที่ 5 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
ประกอบด้วย จังหวัดชุมพร จังหวัด
สุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง
และจังหวัดสงขลา ตั้งแต่เดือนมกราคม - เมษายน 2564 นั้นกลุ่มตรวจราชการและติดตามประเมินผล
สำนักงานศึกษาธิการภาค 5 สามารถสรุปผลการดำเนินการดังกล่าว ดังนี้
จังหวัดชุมพร
มีหน่วยงานและสถานศึกษาที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงได้ตรวจเยี่ยมและรับฟังผล
การดำเนินงาน จำนวน 3 แห่ง คือ 1) สำนักงาน กศน.จังหวัดชุมพร 2) โรงเรียนชุมพรปัญญานุกูล และ
3) ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดชุมพร
การดำเนินการในรอบ 2 ปีงบประมาณที่ผ่านมา
สำนักงาน กศน.จังหวัดชุมพร เน้นเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้ด้อยโอกาส ผ่านการจัดกิจกรรม การฝึกอบรม
และการฝึกทักษะด้านต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการพัฒนาอาชีพ
การฝึกทักษะอาชีพ เป็นต้น
โรงเรียนชุมพรปัญญานุกูล และศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดชุมพร ซึ่งดูแลรับผิดชอบเด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส
จะเป็นโครงการ/ กิจกรรมทางวิชาการ ที่เน้นพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย
ด้านสติปัญญา ด้านอารมณ์ และด้านสังคม รวมถึงการพัฒนาทักษะอาชีพตามความสามารถของแต่ละบุคคล
เช่น
โครงการพัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำสำหรับผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา
โครงการพัฒนาทักษะอาชีพเกษตรตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โครงการอาชาบำบัด
โครงการพัฒนาศักยภาพด้านดนตรี โครงการโรงเรียนคุณธรรม เป็นต้น
ปัญหาอุปสรรค ที่พบ
คือ 1) สถานศึกษาไม่สามารถจัดโครงการ/ กิจกรรมได้ตามแผน
ที่กำหนด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) 2)
จำนวนบุคลากรในหน่วยงานไม่เพียงพอต่อการดูแลรับผิดชอบเด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส และ
3) งบประมาณ
ไม่เพียงพอต่อการลงพื้นที่ให้บริการถึงบ้านเด็ก ซึ่งได้เสนอแนะวิธีการแก้ปัญหานี้
คือ ผู้บริหารระดับกระทรวงอนุมัติงบประมาณในการจัดหายานพาหนะ เพื่อให้การบริการถึงบ้านเด็กเกิดความสะดวก
รวดเร็ว และทั่วถึงมากขึ้น
แนวทางการพัฒนา คือ ความร่วมมือและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
เพื่อให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาสได้เข้าสู่ระบบการศึกษาที่เหมาะสมมากที่สุด
การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) เป็นการสอนแบบ On hand คือ ครูจัดทำเอกสาร ใบงาน แบบฝึกหัด
พร้อมรายละเอียดคำอธิบายที่เข้าใจง่าย และจัดส่งให้นักเรียนถึงบ้าน
จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีหน่วยงานและสถานศึกษาที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงได้ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงาน
จำนวน 9 แห่ง คือ 1) สำนักงาน
กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี 3) โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้
จังหวัดสุราษฎร์ธานี 4) โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์
สุราษฎร์ธานี 5) สำนักงาน กศน.อำเภอดอนสัก 6) สำนักงาน กศน.อำเภอเกาะสมุย 7) โรงเรียนวัดภูเขาทอง
และ 8) โรงเรียนบ้านปลายแหลม
การดำเนินการในรอบ
2
ปีงบประมาณที่ผ่านมา
สถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1
จะให้ความช่วยเหลือเด็กยากจน
เด็กพิการเรียนรวม ในส่วนที่ขาดแคลนและจำเป็น และให้ทุนการศึกษาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ในทุกปี
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ให้ความสำคัญกับเด็กพิการและผู้ด้อยโอกาสได้เข้าถึงการศึกษาให้มากที่สุด จึงมีการจัดการศึกษาหลากหลายแบบ
ได้แก่ 1)
การจัดการศึกษาที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ
2)
การจัดการศึกษาที่หน่วยบริการ 3)
การจัดการศึกษาที่บ้านเด็ก 4)
การจัดการศึกษาแบบศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล 5)
การจัดการศึกษาแบบห้องเรียนคู่ขนานสำหรับเด็กออทิสติก และ 6) การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม
สำนักงาน
กศน. จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงาน กศน. อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัด จะมุ่งให้ความรู้ เพิ่มพูนทักษะด้านต่าง ๆ
ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดความชำนาญ สามารถสร้างอาชีพและมีรายได้
และพัฒนาต่อยอดความรู้ ความสามารถ เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการโดยมุ่งเน้น 3
ด้าน คือ 1) ด้านคุณภาพผู้เรียน
เน้นประเมินผู้เรียนเป็นรายบุคคลจากสภาพจริง ผ่านกระบวนการจัดการเรียนการสอน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และทักษะในการดำรงชีวิตที่จำเป็นพิเศษสำหรับผู้เรียน 2)
ด้านกระบวนการบริหารจัดการ
และ 3)
ด้านกระบวนการเรียนการสอน
ผ่านกระบวนการ PLC
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี
ดำเนินการโดยมุ่งเน้น
3 ด้าน คือ 1) ด้านคุณภาพผู้เรียน
ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย
และมีทักษะการดำเนินชีวิตเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 2)
ด้านกระบวนการบริหารจัดการ
วางแผนและดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพของผู้เรียนรอบด้าน
พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ โดยส่งเสริม
สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากรอยู่เป็นประจำ จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้
และติดตาม ประเมินผลการบริหารและจัดการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และ 3)
ด้านกระบวนการเรียนการสอน
จัดการเรียนการสอนตามแผนการเรียนรู้และสอดคล้องกับหลักสูตรของสถานศึกษา ที่เน้นผู้เรียนผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง
ปัญหาอุปสรรค
สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี
เขต 1 พบปัญหาอุปสรรค 2 ประเด็น คือ 1) ผู้ปกครองไม่ได้อยู่กับเด็ก
ข้อมูลที่ได้รับจากการเยี่ยมบ้านจึงไม่ใช่ข้อเท็จจริง และ 2) ความไม่เพียงพอของปัจจัยในการบริหารจัดการสถานศึกษา
คือ ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านงบประมาณด้านสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ และด้านการจัดการ ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 ได้เสนอ
แนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคในประเด็นแรก โดยการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งระหว่างสถานศึกษา
ผู้ปกครอง ชุมชน และการสร้างความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อให้ผู้ปกครอง ชุมชน เกิดความไว้วางใจให้มากที่สุด
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี
พบปัญหาอุปสรรค 3 ประเด็น คือ
1) งบประมาณไม่เพียงพอกับพื้นที่การให้บริการในจังหวัด 2)
ยานพาหนะในการลงพื้นที่มีสภาพเก่า และ
3) หน่วยบริการไม่มีสถานที่ตั้งเป็นของตนเอง
ต้องอาศัยจัดตั้งภายในสถานที่ของหน่วยงานอื่น
สำนักงาน
กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงาน กศน. อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัด พบว่า ปัญหาอุปสรรคส่วนใหญ่เกี่ยวกับความไม่เพียงพอของปัจจัยในการบริหารจัดการของหน่วยงาน คือ
ด้านทรัพยากรบุคคล - ขาดครูผู้สอนสำหรับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ
ด้านงบประมาณ - การจัดสรรงบประมาณล่าช้า
และมีจำกัด ไม่มีการจัดสรรงบประมาณในการลงพื้นที่อย่างเพียงพอ
ด้านสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ - ไม่มีหลักสูตรการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน หนังสือ สื่อ สำหรับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ สื่อไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอกับจำนวนผู้เรียน
ด้านการจัดการ - ไม่มีความมั่นคงในวิชาชีพของครูผู้สอน
โดยได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคดังกล่าว คือ การจัดสรรงบประมาณสำหรับปัจจัยทุกด้านในการบริหารจัดการให้เพียงพอและเหมาะสม
โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้
จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบปัญหาอุปสรรค 3 ประเด็น คือ 1)
จำนวนนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็นและมีความพิการอื่นร่วมด้วยมีมากขึ้น 2)
ขาดแคลนคอมพิวเตอร์ สื่อและเทคโนโลยีสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น เนื่องจากเป็นครุภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะและราคาแพง
3) ขาดแคลนครูผู้สอน ครูแนะแนว ที่ให้ความรู้นักเรียน
และขาดแคลนบุคลากรสายสนับสนุน เช่น พยาบาล นักกายภาพบำบัด และพนักงานนวดแผนไทย ทั้งนี้
หน่วยงานได้เสนอให้มีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการจัดซื้อวัสดุ
ครุภัณฑ์ และการจัดจ้างบุคคล
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี
พบปัญหาอุปสรรค 4 ประเด็น
คือ 1) การติดต่อระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองมีความยากลำบาก
เนื่องจากผู้ปกครองอยู่ห่างไกลและกันดาร หรือไปทำงานใน
ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด 2) ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน และบางส่วนมักปิดบังข้อมูลที่เป็นจริงของตนเองและนักเรียน
และ 3) นักเรียนส่วนใหญ่ที่ย้ายมาเรียนในระหว่างปีค่อนข้างมีปัญหา
แนวทางการพัฒนา
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี
มีแนวทางในการพัฒนา คือ การดำเนินการ
ปักหมุดบ้านนักเรียน เพื่อเป็นฐานข้อมูล
และใช้ในการขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาของนักเรียนพิการ
สำนักงาน
กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงาน กศน. อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัด ได้ให้ความสำคัญกับครูผู้สอน และหลักสูตรเป็นสำคัญ
คือ 1) พัฒนาครูให้มีความรู้
โดยจัดฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา อย่างต่อเนื่อง และ 2)
พัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับอาชีพและศิลปวัฒนธรรมไทยให้ผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ
เพื่อให้เกิดทักษะและสามารถยกระดับฝีมือในการประกอบอาชีพได้
โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้
จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีแนวทางในการพัฒนา 4 ประเด็น คือ 1)
การจัดทำแผนการดำเนินงาน/กิจกรรม ตลอดจนการวัดและประเมินผล
ให้สอดรับกับระดับความสามารถของผู้เรียน 2)
ปรับปรุง พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน
บริบทของสถานศึกษา และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551
เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะทางวิชาการ ทักษะการดำรงชีวิต 3) ส่งเสริม
สนับสนุนกระบวนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ครอบคลุมและทั่วถึง และ 4)
ส่งเสริม สนับสนุนกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี
มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียน ครูผู้สอนและบุคลากรมากที่สุด คือ
1) ส่งเสริมผู้เรียนใน 3 ทักษะ ได้แก่
ทักษะชีวิต ทักษะวิชาการ และทักษะอาชีพ และ 2)
ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในการพัฒนาตนเอง เช่น การศึกษาต่อ
การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ
การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
สำนักงาน กศน.
จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงาน
กศน. อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัด และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี
จัดการเรียนการสอน 3 รูปแบบ คือ 1) On-Line 2) On Hand และ 3) On-Site
ส่วนศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้
จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดการเรียนการสอน 4
รูปแบบ
คือ 1) On-Air 2) On-Line 3) On Hand และ 4) On Demand
จังหวัดนครศรีธรรมราช มีหน่วยงานและสถานศึกษาที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงได้ตรวจเยี่ยมและ
รับฟังผลการดำเนินงาน จำนวน 6 แห่ง คือ 1) สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช 2) ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช 3) โรงเรียนนครศรีธรรมราชปัญญานุกูล 4) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
19 จังหวัดนครศรีธรรมราช 5) โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว
จังหวัดนครศรีธรรมราช และ 6) โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช
การดำเนินการในรอบ
2
ปีงบประมาณที่ผ่านมา
สำนักงาน
กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการจัดทำแผน
IEP ออนไลน์ ร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีการศึกษา 2562 มีนักศึกษาคนพิการจบการศึกษา จำนวน 36 คน
(ร้อยละ 8.3) และในปีการศึกษา 2563 จำนวน 26 คน (ร้อยละ 6.1)
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช มุ่งเน้นพัฒนาเด็กพิการให้มีคุณภาพ
มีทักษะที่ดี สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
และมีความพร้อมตามเกณฑ์ที่จะส่งต่อเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
จึงได้จัดให้มีครู 1 คน รับผิดชอบนักเรียน 1 คน
เพื่อให้ครูสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างเต็มที่
โรงเรียนนครศรีธรรมราชปัญญานุกูล ใช้หลักสูตรสถานศึกษาเฉพาะ
สำหรับผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียน
6 กลุ่มทักษะการเรียนรู้ ได้แก่
1) ทักษะการเคลื่อนไหว 2) ทักษะภาษาและการสื่อสาร 3)
ทักษะการช่วยเหลือตนเองและสุขอนามัย
4) ทักษะสังคมและการดำรงชีวิต 5) ทักษะวิชาการ และ 6) ทักษะอาชีพ ทั้งนี้
จะเน้นการมีทักษะอาชีพเพิ่มเติม ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และเน้นทักษะการคิด
วิเคราะห์ สังเคราะห์ และแก้ปัญหา ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
19 จังหวัดนครศรีธรรมราช เน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แข่งขันและแสดงความสามารถด้านวิชาการ ด้านทักษะอาชีพ
และกิจกรรมต่าง ๆ โดยผ่านการวัดและประเมินผลตามเกณฑ์และวิธีการที่หลากหลาย ทั้งยังส่งเสริมให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ
มีวินัย มีความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และมีจิตสาธารณะ
โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว
จังหวัดนครศรีธรรมราช เน้นการจัดการเรียนรู้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
(Individualized
Education Program : IEP) และแผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual
Implementation Plan : IIP) โดยได้จัดการศึกษาเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1)
แบบบูรณาการ 8 กลุ่มสาระ 1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เน้นด้านอาชีพ 5 กลุ่มงาน ได้แก่
1) กลุ่มงานอาชีพเกษตร 2) กลุ่มงานอาชีพคหกรรม 3) กลุ่มงานอาชีพอุตสาหกรรม 4)
กลุ่มงานอาชีพความคิดสร้างสรรค์ 5) กลุ่มงานอาชีพพณิชยกรรมและการบริการ 2)
แบบโครงการเรียนรู้อยู่กับบ้าน และ
3) แบบร่วมกับสถาบันพัฒนาด้านอาชีพและสถานประกอบการ
เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพในทุกด้านอย่างเต็มที่
โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช เน้นส่งเสริมผู้เรียนให้มีทักษะในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองด้วยวิธีการที่หลากหลาย
ทั้งทักษะวิชาการ ทักษะวิชาชีพ และทักษะชีวิต ครูจัดทำแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการ
จัดทำสื่อส่งเสริมพัฒนาการ สื่อการเรียนการสอน จัดห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้
เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ
สำนักงาน กศน. จังหวัดนครศรีธรรมราช พบปัญหาอุปสรรค
7 ประเด็น คือ 1)
ครูผู้สอนคนพิการขาดขวัญ กำลังใจในการปฏิบัติงาน รู้สึกไม่มีความมั่นคงในอาชีพ
เนื่องจากเป็นการจ้างเหมาบริการ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวครูผู้สอนอยู่ตลอดเวลา 2)
ระดับความรู้ ความสามารถของนักศึกษาแตกต่างกัน
ทำให้ครูผู้สอนต้องออกแบบสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลาย 3)
นักศึกษาคนพิการด้านร่างกายไม่สามารถเดินทางมาสอบปลายภาคเรียนได้ 4)
นักศึกษาคนพิการที่นั่งรถวีลแชร์มาสอบค่อนข้างจะไม่สะดวกในการ
นั่งสอบเป็นเวลานาน 5)
จำนวนข้อสอบและการทำเครื่องหมายในข้อสอบเป็นปัญหาสำหรับนักศึกษาคนพิการที่ต้องใช้เวลามากกว่านักศึกษาทั่วไป
6) นักศึกษาคนพิการส่วนใหญ่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการติดต่อสื่อสาร
หรือเพื่อการเรียนรู้ และ 7) ครอบครัวของนักศึกษาไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต
และไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์เทคโนโลยี ทำให้ไม่สามารถเรียนแบบออนไลน์ได้
ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาอุปสรรคดังกล่าว
คือ 1) ควรสร้างขวัญกำลังใจให้ครูผู้สอน
โดยปรับจากพนักงานจ้างเหมาบริการเป็นพนักงานราชการทุกอัตรา 2) ควรจัดให้นักศึกษาคนพิการและผู้ดูแลได้เข้าร่วมกิจกรรม
การศึกษาดูงานอย่างสม่ำเสมอ และ 3)
ควรจัดอบรมครูผู้สอนคนพิการในเรื่องการออกแบบสื่อการเรียนการสอน การสร้างนวัตกรรม
เพื่อให้ครูผู้สอนเกิดความรู้เพิ่มเติม สามารถพัฒนาตนเอง
และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาได้
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช พบปัญหาอุปสรรค 2 ประเด็น คือ 1)
ขาดแคลนครู
2)
งบประมาณในการจัดฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครองให้มีทักษะการดูแลบุตรหลานที่มีความพิการมีไม่เพียงพอ
และมีจำนวนลดลง ซึ่งหน่วยงานแก้ปัญหาโดยลดจำนวนวันฝึกอบรมให้น้อยลง
ทำให้ผู้ปกครองไม่ได้รับความรู้เท่าที่ควร โดยได้เสนอแนะวิธีแก้ปัญหาอุปสรรค คือ
ควรจัดสรรงบประมาณด้านการบริหารจัดการ และด้านบุคลากร เพิ่มขึ้น
โรงเรียนนครศรีธรรมราชปัญญานุกูล พบปัญหาอุปสรรคเรื่องหอนอนมีไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19 จังหวัดนครศรีธรรมราช พบปัญหาอุปสรรค 6 ประเด็น คือ
1) ความห่างเหินระหว่างผู้ปกครองและนักเรียนจากการที่นักเรียนอยู่โรงเรียนประจำ
ส่งผลให้นักเรียนรู้สึกขาดความรัก ความอบอุ่น
และเป็นสาเหตุให้นักเรียนมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน 2)
การโยกย้ายถิ่นฐานและการย้ายที่
ทำกินของผู้ปกครอง ส่งผลให้นักเรียนย้ายออกกลางคัน 3) ผู้ปกครองบางส่วนมีฐานะยากจน
ส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญาของบุตรหลานในครอบครัว 4)
การเผชิญกับปัญหาหย่าร้างของครอบครัว ส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเรียน 5)
โรงเรียนเข้าถึงเด็กด้อยโอกาสได้ไม่ทั่วถึง
เนื่องจากพื้นที่ให้บริการและรับผิดชอบกว้างมากครอบคลุม 23 อำเภอในจังหวัด และ 6)
ครูมีภาระงานในการดูแลนักเรียนประจำ นอกเหนือจากการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน
โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว
จังหวัดนครศรีธรรมราช พบปัญหาอุปสรรคที่พอจะจำแนกตามปัจจัยในการบริหารจัดการ
ได้เป็น 3 ด้าน โดยเรียงลำดับด้านที่พบปัญหามากที่สุดไปหาด้านที่พบปัญหาน้อยที่สุด
คือ ด้านสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก ด้านบุคลากร และด้านการจัดการ
ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างอาคารของโรงเรียนยังไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด โรงเรียนได้ขอใช้พื้นที่ชั่วคราวในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19 จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ
ภายใต้ความขาดแคลนและข้อจำกัดต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 5 ปี แล้ว
สำหรับประเด็นด้านสื่อ
วัสดุ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก คือ 1) ครุภัณฑ์
สิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนการสอนไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอ 2) สภาพห้องเรียน ห้องกายภาพบำบัด
ห้องพยาบาล ไม่เหมาะสมกับสภาพความพิการของนักเรียน 3) หอพักนักเรียนมีพื้นที่จำกัด ไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม
(พื้นปูนเปลือย ทำให้เกิดความชื้น) 4) ห้องน้ำในหอพักคับแคบ
ไม่เหมาะสมและไม่เอื้อต่อการใช้งานสำหรับผู้พิการ 5) ทางลาดสำหรับนักเรียนไม่มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งาน
6) โรงอาหารมีพื้นที่จำกัดสำหรับนักเรียนในการใช้บริการ
7) ยานพาหนะไม่เพียงพอและไม่เหมาะสมต่อการใช้งานของนักเรียน
กรณีจัดกิจกรรมนอกสถานที่ หรือไปโรงพยาบาล 8) ห้องจัดเก็บวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ไม่มีความปลอดภัย และไม่เหมาะสม
ทำให้เกิดการชำรุดเสียหายได้ง่าย
ประเด็นด้านบุคลากร คือ 1) ครูผู้สอนไม่ตรงตามวุฒิการศึกษาและกลุ่มสาระการเรียนรู้
2) ครูผู้สอนขาดความรู้และประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนที่บกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ 3) บุคลากรสนับสนุนการสอน ขาดทักษะความรู้ในการดูแลนักเรียนที่บกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ 4) จำนวนครูผู้สอนต่อจำนวนนักเรียน 90 คน
ไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม เมื่อเทียบสัดส่วนจำนวนของครูต่อนักเรียน (1 : 4) โดยได้เสนอวิธีการแก้ปัญหาอุปสรรคในข้อ 2) และ ข้อ 3) คือ พัฒนาครูและบุคลากรสนับสนุนการสอนเกี่ยวกับการใช้สื่อเทคโนโลยี
และมีการนิเทศการสอนอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นด้านการจัดการ คือ ความไม่สะดวกในการดำเนินการเบิกจ่าย ต้องดำเนินการผ่านศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
ซึ่งเป็นหน่วยเบิกจ่าย
โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช พบปัญหาอุปสรรคเรื่องครูผู้สอนไม่ตรงตามวุฒิการศึกษาและกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้งนี้ ได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม คือ ควรส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคลากรภายในสถานศึกษา
ระหว่างสถานศึกษากับครอบครัว ชุมชน และองค์กรที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น และควรพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
เพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่ของนักเรียน
แนวทางการพัฒนา
โรงเรียนนครศรีธรรมราชปัญญานุกูล มีแนวทางการพัฒนา คือ
ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนด้านทักษะอาชีพให้ผู้ปกครอง เพื่อเป็นช่องทางในการช่วยเหลือครอบครัวของนักเรียน
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
19 จังหวัดนครศรีธรรมราช แนวทางการพัฒนา
คือเน้น 3 ทักษะ ได้แก่ 1) ทักษะวิชาการ 2) ทักษะวิชาชีพ และ 3) ทักษะวิชาชีวิต
โดยจัดโครงการ/กิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะดังกล่าว ดังนี้ 1) โครงการโรงเรียนคุณธรรม
2)
โครงการจัดการเรียนการสอนแบบทวิศึกษาร่วมกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช
3) โครงการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษา 4)
กิจกรรมการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5)
โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 6) กิจกรรมเกษตรหอนอน และ 7)
กิจกรรมส่งเสริมด้านกีฬา
โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว จังหวัดนครศรีธรรมราช มีแนวทางการพัฒนา 3 ประเด็น คือ 1)
ส่งเสริมให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการจัดการเรียน
การสอนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้เรียนมากที่สุด 2) พัฒนาการเขียนแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
(Individualized Education
Program : IEP) และแผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual Implementation Plan : IIP) การวัดและการประเมินผล การบันทึกหลังการสอน ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการประเมินผลตามสภาพจริง
และ 3) ส่งเสริมการใช้กระบวนการวิจัยแก้ปัญหาในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง
เพื่อปรับแผนการจัดการเรียนรู้เป็นระยะ
โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช มีแนวทางการพัฒนา 4 ประเด็น คือ 1) พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยรูปแบบที่หลากหลาย
โดยเน้นพัฒนาในด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้
และเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านทักษะงานอาชีพ 2) พัฒนาการจัดการเรียนการสอน
และการจัดกิจกรรมด้านอาชีพที่หลากหลาย 3) พัฒนาการจัดโครงการ/กิจกรรมให้เป็นระบบ
มีการประเมินผล นิเทศ ติดตามอยู่เป็นประจำ และ 4) ศึกษาสภาพปัจจุบัน จุดอ่อน
จุดแข็งของโรงเรียน เพื่อวางแผนการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา
การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) สำนักงาน
กศน. จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดการเรียนการสอน 2 รูปแบบ 1) On-Line และ
2) On-Site
โรงเรียนนครศรีธรรมราชปัญญานุกูล จัดการเรียนการสอน
2 รูปแบบ คือ 1)
On-Site สำหรับนักเรียนที่ไม่มีโรคประจำตัวและช่วยเหลือตัวเองได้
และ 2) Home School โดยครูจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
(Individualized
Education Program : IEP) และแผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual
Implementation Plan : IIP)
และกำกับ ติดตามความก้าวหน้าในการจัดเรียนการสอนแบบ Home School ตามหน่วยทางการศึกษาในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19
จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดการเรียนการสอน 3 รูปแบบ คือ 1) On-Site 2) On Demand และ 3) On Hand
โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว
จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดการเรียนการสอนแบบ On-Line
โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดการเรียนการสอนแบบ On Hand
จังหวัดพัทลุง
มีหน่วยงานและสถานศึกษาที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงได้ตรวจเยี่ยมและรับฟังผล
การดำเนินงาน จำนวน 3 แห่ง คือ 1) สำนักงาน กศน. จังหวัดพัทลุง 2) ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง และ 3) โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง
การดำเนินการในรอบ 2
ปีงบประมาณที่ผ่านมา
สำนักงาน กศน.
จังหวัดพัทลุง
เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสจะได้รับการพัฒนาความรู้
ความสามารถ ฝึกทักษะอาชีพ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง
จะได้รับการบริการช่วยเหลือ ตั้งแต่แรกเกิด
หรือเมื่อพบความบกพร่องตามความจำเป็น
ระยะแรกเป็นการบริการช่วยเหลือด้วยกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพและเตรียมความพร้อม
รวมถึงการให้ความรู้กับผู้ปกครองและครอบครัวในการดูแล
และฟื้นฟูสมรรถภาพให้กับบุตรหลาน
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง มีจัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพอย่างทั่วถึง
ส่งเสริมทักษะต่าง ๆ เช่น ด้านอาชีพ ด้านดนตรี ด้านกีฬา ด้านศิลปะ
ตามความต้องการและความถนัด เพื่อเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตและมีอาชีพติดตัว
อย่างน้อย 1 อาชีพ เมื่อจบการศึกษา ส่งเสริมให้รู้จักการอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรม
ภูมิปัญญาท้องถิ่นและรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม
จิตสำนึกความเป็นไทย
ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ
สำนักงาน
กศน. จังหวัดพัทลุง พบปัญหาอุปสรรค 2 ประเด็น คือ 1) ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลผู้พิการในครอบครัว ทำให้ผู้พิการมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ช้า และ
2) นักศึกษาคนพิการบางคนต้องทำงานรับจ้าง เพื่อหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว
ทำให้ไม่มีเวลาในการเรียนรู้
จึงเกิดความยากลำบากของครูในการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการจัดเรียนรู้ที่กำหนด ทั้งนี้
ได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น อยู่ 2 ประเด็น คือ 1)
ควรจัดสรรงบประมาณสนับสนุนส่งเสริมการเรียนรู้ด้านอาชีพให้กับนักศึกษาคนพิการ
เพื่อสร้างอาชีพ และหาเลี้ยงตนเองได้ และ
2) ควรมีการอบรมพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนให้ครูผู้สอนคนพิการ ปีละ 2
ครั้ง เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ให้ครูอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง พบปัญหาอุปสรรค 3 ประเด็น คือ 1)
การเดินทางของบุคลากรที่ไปให้บริการที่บ้านนักเรียน หรือสืบค้นนักเรียนรายใหม่
มีระยะทางค่อนข้างไกลจากศูนย์ฯ (มากกว่า 100 กิโลเมตร) 2)
ความปลอดภัยของบุคลากรในการเดินทาง ซึ่งส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ และ3)
หน่วยบริการบางหน่วยมีอาคารเรียน/
พื้นที่ตั้งไม่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและฟื้นฟูสมรรถภาพให้นักเรียน โดยได้เสนอวิธีแก้ปัญหาอุปสรรคดังกล่าว
คือ จัดสรรงบประมาณในส่วนการปรับปรุงหน่วยบริการ
ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทางของบุคลากร
ให้เพียงพอและเหมาะสมในการจัดการเรียนการสอน
และการฟื้นฟูสมรรถภาพให้นักเรียนที่หน่วยบริการและที่บ้าน
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง พบปัญหาอุปสรรค คือ จำนวนนักเรียนลดลง
เนื่องจากเขตพื้นที่บริการลดลง และมีจำนวนสถานศึกษาเปิดมากขึ้น
แนวทางการพัฒนา
สำนักงาน กศน.
จังหวัดพัทลุง
มีแนวทางการพัฒนา คือ จัดกิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่
เพื่อเปิดโลกทัศน์ให้แก่นักศึกษา และเพิ่มพูนทักษะชีวิต
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง มีแนวทางการพัฒนา 2 ประเด็น คือ 1) การสร้างภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง และ 2)
การบูรณาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษกับหน่วยงานอื่น
ๆ เช่น ท้องถิ่น สาธารณสุขประจำอำเภอ
การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
สำนักงาน กศน. จังหวัดพัทลุง
จัดการเรียนการสอน 2 รูปแบบ คือ 1) On-Site และ 2) On-Line
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จัดการเรียนการสอน 2 รูปแบบ คือ 1) On-Site และ 2)
On-Air
จังหวัดสงขลา
มีหน่วยงานและสถานศึกษาที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงได้ตรวจเยี่ยมและรับฟังผล
การดำเนินงาน จำนวน 2 แห่ง คือ 1) โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา และ 2) พื้นที่ให้บริการของศูนย์ กศน.อำเภอหาดใหญ่
การดำเนินการในรอบ 2
ปีงบประมาณที่ผ่านมา
โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา
จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มีรูปแบบ กระบวนการจัดการเรียนการสอน ตามโครงการการจัดการเรียนการสอนรูปแบบสองภาษาสำหรับเด็กหูหนวก
ตามแนวการจัดการศึกษาวอลดอร์ฟ ระดับชั้นอนุบาล – ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
เพื่อส่งเสริมพัฒนา นักเรียนที่สอดคล้องกับวุฒิภาวะให้เหมาะสมกับวัย
ในการพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ผ่านกระบวนการพัฒนานักเรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย ส่งเสริมนักเรียนให้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ
อธิบาย แลกเปลี่ยน แก้ปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ
และการสื่อสาร จากกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ ส่งผลให้นักเรียนสามารถไปประกอบอาชีพ
และสามารถเข้าศึกษาต่อได้ใน ระดับอุดมศึกษาได้
ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ
โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา พบปัญหาอุปสรรค
2 ประเด็น คือ 1) นักเรียนส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาในจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา
และจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ทำให้ยากต่อการติดตาม ดูแล
และช่วยเหลือ 2) มีปัญหาครอบครัวยากจนและความไม่พร้อมในการดูแลนักเรียนพิการ ทั้งนี้
ได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น คือ จัดหาทุนการศึกษา
และเงินช่วยเหลือพาหนะ รับ - ส่ง นักเรียนกรณีบ้านไกล ยากจน และมีความ ยากลำบากในการมารับ-ส่งนักเรียน
การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา
ได้มีการจัดมาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVIC-19) โดยแบ่งออกเป็น 3 มาตรการ ได้แก่
1. มาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
(COVIC-19) ก่อนเปิดภาคเรียน โดยดำเนินการ ดังนี้ 1) อบรมให้ความรู้แก่บุคลากร
2) จัดเตรียมหน้ากากผ้าไว้สำหรับนักเรียน 3) จัดเตรียมห้องเรียนแบบเว้นระยะห่าง
4) จุดบริการเจลล้างมือ และอ่างสำหรับล้างมือ 5) จัดเตรียมหอพักสำหรับนักเรียนที่อยู่ประจำแบบเว้นระยะห่าง 6) จัดเตรียมโรงอาหารแบบเว้นระยะห่าง และ 7) วางแผนเตรียมรับนักเรียนในวันเปิดเรียน
2. มาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
(COVIC-19) เปิดภาคเรียน ดังนี้ 1) คัดกรอง วัดไข้ นักเรียน
ครูและบุคลากร ก่อนเข้าโรงเรียนทุกครั้ง 2) คัดกรอง วัดไข้
นักเรียนประจำก่อนเข้า - ออกจากหอนอน และตรวจวัดอุณหภูมินักเรียนไป - กลับ ก่อนเข้าโรงเรียนทุกครั้ง
3) นักเรียนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
โดยความดูแลของครูหอนอน ครูเวรประจำวัน และครูประจำชั้น 4) มีจุดล้างมือและเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ
5) มีการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการใช้และสัมผัสร่วมกัน
เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศ 6) ทำสัญลักษณ์ที่สามารถเห็นได้ชัดเจน
เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 - 2 เมตรในการเข้าแถวทำกิจกรรมหน้าเสาธงและการทำกิจกรรมต่างๆ
และ
7) ไม่จัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ลดเวลาทำกิจกรรมพร้อมกัน
โดยโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอน 2 แบบ คือ On-Site
คือ การจัดการเรียนการสอนนักเรียนที่มาเรียนที่โรงเรียนตามปกติ และ On-Line คือ
การจัดการเรียนการสอนนักเรียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่บ้าน ภายใต้ความช่วยเหลือจากครูและผู้ปกครอง
3.
มาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVIC-19) ปิดภาคเรียน ดังนี้ 1) ทำความสะอาดห้องเรียน
และหอนอน 2) ปรับปรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ชำรุด
3) ซ่อมแซมสื่อการสอน COVID -19 ที่ชำรุด และ 4) ปรับปรุงป้าย บอร์ดนิเทศต่างๆ
*************************************
บันทึข้อมูลโดย: