ข้อสรุปของ ข้อสรุปการตรวจราชการของศึกษาธิการภาค บันทึกเมื่อวันที่ Date: 29 เมษายน 2565
หัวข้อการตรวจกรณีพิเศษ : โรงเรียนคุณภาพ
๑. การรับรู้และเข้าใจ
๑. ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถานศึกษากลุ่มเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์ของการขับเคลื่อนโรงเรียนคุณภาพของกระทรวงศึกษาธิการ โดยการจัดประชุมโรงเรียนคุณภาพชุมชนและโรงเรียน Stand Alone เพื่อชี้แจงโครงการโรงเรียนคุณภาพและการสร้างเครือข่ายทรัพยากรร่วมกัน เพื่อแก้ไขประเด็นปัญหา ดังนี้
- ลดความเหลื่อมล้ำ
- สร้างเครือข่ายทรัพยากรร่วมกัน
- สร้างความมั่นใจคุณภาพของโรงเรียน
๒. สร้างช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างโรงเรียนเครือข่ายและโรงเรียนคุณภาพเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินงาน
๓. เข้าร่วมการอบรม/ประชุม เกี่ยวกับโครงการโรงเรียนคุณภาพทุกครั้ง พร้อมทั้งนำข้อมูลจากการเข้าร่วมการอบรม/ประชุม ขยายผลให้โรงเรียนคุณภาพและโรงเรียนเครือข่ายทราบ
๔. ดำเนินการชี้แจงผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่รับรู้เข้าใจ และให้การสนับสนุนในการดำเนินงาน
๒. การนำนโยบายไปปฏิบัติ
๑. แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกและบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน
๒. ดำเนินการลงพื้นที่สำรวจเพื่อเตรียมความพร้อม จัดทำแผนที่ข้อมูลโรงเรียนในสังกัด กำหนดพิกัดที่ตั้งและระยะทางการเดินทางระหว่างแต่ละโรงเรียน ข้อมูลพื้นที่โรงเรียน จำนวนนักเรียน ครู ลงบนแผนที่ และคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อมเป็น “โรงเรียนคุณภาพ” ตามแนวทางการคัดเลือกโรงเรียนคุณภาพที่ สพฐ. กำหนด
๓. ผู้บริหารโรงเรียนคุณภาพและโรงเรียนเครือข่ายแต่ละแห่ง ดำเนินการประชุมสร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับโรงเรียนคุณภาพให้คณะครูทราบ พร้อมทั้งวางแผนการดำเนินการร่วมกัน
๔. ทำ MOU ระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนคุณภาพ และ โรงเรียนเครือข่าย
๕. โรงเรียนคุณภาพ และโรงเรียนเครือข่ายประชุมชี้แจงและทำความเข้าใจกับคณะกรรมการสถานศึกษาผู้ปกครอง ชุมชน และผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับนโยบายโรงเรียนคุณภาพ
๖. โรงเรียนคุณภาพ และโรงเรียนเครือข่าย ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาตามนโยบาย ๘ จุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๓. ข้อมูลผลการขับเคลื่อน
โรงเรียนคุณภาพ ระดับประถมศึกษา
๑. โรงเรียนวัดสนามจันทร์ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต ๑
เรียนร่วม ๑๐๐% จำนวน ๑ แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดคลองบ้านโพธิ์๒. โรงเรียนวัดทุ่งสะเดาประชาสรรค์ อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต ๒
เรียนร่วม ๑๐๐% จำนวน ๑ แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดวังกะจะ๓. โรงเรียนบ้านหนองเขิน (อินทรวิชัยบำรุง) อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๑
เรียนร่วมบางรายวิชากับโรงเรียนเครือข่าย จำนวน ๔ แห่ง ได้แก่
โรงเรียนวัดหนองชันจันทนาราม โรงเรียนบ้านบึงกระโดน (ศิริสิงห์อุปถัมภ์) โรงเรียนวัดอรุณรังษี และโรงเรียนวัดหนองบอนแดง โดยดำเนินการใช้ทรัพยากรครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษร่วมกัน๔. โรงเรียนวัดตโปทาราม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๓
เรียนร่วมบางรายวิชากับโรงเรียนเครือข่าย จำนวน ๓ แห่ง ได้แก่
โรงเรียนบ้านทางตรง โรงเรียนวัดเขาฉลาก และโรงเรียนบ้านห้วยกรุ๕. โรงเรียนบ้านสามแยกน้ำเป็น อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต ๒
- เรียนร่วม ๑๐๐% จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านน้ำเป็น และโรงเรียนบ้านเหมืองแร่
- เรียนร่วมบางรายวิชา ๓ แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านเนินสุขสำรอง โรงเรียนบ้านมาบช้างนอน และโรงเรียนบ้านน้ำใส
สถานศึกษาที่เป็นโรงเรียนคุณภาพมีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานของสถานศึกษาในการเป็นโรงเรียนคุณภาพ รวมถึงการบริหารจัดการพาหนะรับส่ง ผู้บริหารสถานศึกษามีการส่งเสริมให้ครูผู้สอนมีทักษะ Active Learning และครูผู้สอนทุกคนผ่านการอบรม Active Learning
๔. ปัญหา/อุปสรรค/ข้อจำกัดในการดำเนินการตามนโยบาย
๑. การใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างโรงเรียนคุณภาพหลักและโรงเรียนเครือข่ายผู้ปกครองบางส่วนยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้การทำความเข้าใจกับชุมชนเป็นไปค่อนข้างยาก เนื่องจากผู้ปกครองไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้เรียนจะต้องเดินทางไกลบ้าน
๒. การกำหนดแผนเดิมโรงเรียนที่มีผู้เรียนไม่ถึง ๔๐ คน จะต้องมีการควบรวม แต่ไม่สามารถทำตามแผนได้ สาเหตุเกิดจากการที่ผู้ปกครองและชุมชนไม่สนับสนุนนโยบายดังกล่าว
๓. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ทำให้การดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษาไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่
๔. จัดหาครูผู้สอนชาวต่างชาติไม่ได้ เนื่องจากเป็นการจ้างระยะสั้น และคุณสมบัติของผู้สมัคร ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งไว้ค่อนข้างสูง
๕. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดการอบรม โดยให้โรงเรียนคุณภาพส่งบุคลากรในโรงเรียนเข้ารับการอบรมต่อเนื่องหลายครั้งและหลายคน แต่ละครั้งใช้เวลานาน ทำให้ครูผู้สอนดำเนินการจัดการเรียนการสอนได้ไม่เต็มที่
๖. จำนวนบุคลากรในโรงเรียนคุณภาพมีจำนวนจำกัด ไม่ครบตามกลุ่มสาระวิชาเอก
๗. ขาดความชัดเจนในการให้คำจำกัดความของโรงเรียน Stand Alone ทำให้ไม่สามารถจัดโรงเรียนให้อยู่ในกลุ่มโรงเรียน Stand Alone ได้ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
๘. ขาดความชัดเจนของขั้นตอนและวิธีการดำเนินงานในระยะแรก ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในทิศทางการดำเนินงานและเป้าหมายของโครงการ รวมถึงการสั่งการจากหลายฝ่าย มีความซ้ำซ้อน ขาดความเป็นเอกภาพ
๙. ขาดบุคลากรที่มีความชำนาญในการวางผังอาคารสถานที่และเขียนแบบ (Model) ของสถานศึกษา
๑๐. งบประมาณที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแจ้งให้สถานศึกษาดำเนินการจัดทำคำขอในปีงบประมาณมาล่าช้า ทำให้สถานศึกษาไม่สามารถดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณได้ทันกำหนดเวลา
๕. ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงนโยบาย
๑. ควรปรับปรุงระเบียบถ้านักเรียนต่ำกว่า ๒๐ คน ควรให้อำนาจเขตพื้นที่ดำเนินการโดยไม่ต้องผ่านคณะกรรมการสถานศึกษาหรือชุมชน
๒. ในการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างโรงเรียนหลักและโรงเรียนเครือข่าย ควรจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนเครือข่ายในกรณีที่ โรงเรียนเครือข่ายต้องจัดทำโครงการทัศนศึกษาเพื่อไปใช้ทรัพยากรร่วมกับโรงเรียนหลัก
๓. สนับสนุนบุคลากรให้ครบกลุ่มสาระ และบุคลากรอื่น ๆ เช่น เจ้าหน้าที่ธุรการ
๔. สนับสนุนยานพาหนะเพื่อบริการรับส่งผู้เรียนจากโรงเรียนเครือข่าย
๕. ควรมีการประชุมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติให้แก่ผู้ปฏิบัติและสถานศึกษาทราบอย่างสม่ำเสมอ และจัดทำประกาศอย่างเป็นทางการให้สถานศึกษาทราบ
บันทึข้อมูลโดย: นางสาวอัณณ์จิรภา ธนาชัยกุลวัฒน์