ข้อสรุปของ ข้อสรุปการตรวจราชการของศึกษาธิการภาค บันทึกเมื่อวันที่ Date: 04 เมษายน 2565
รายงานสรุปผลการตรวจราชการ
ตามนโยบายการตรวจราชการและติดตาม
ประเมินผลการจัดการศึกษา
ของกระทรวงศึกษาธิการ
กรณีปกติ
ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2565
เขตตรวจราชการที่ 6
ของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
(นายธฤติ ประสานสอน)
ระหว่างวันที่
27-29 มีนาคม 2565 ณ จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตามที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
(นายธฤติ ประสานสอน) ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการตามนโยบายการตรวจราชการและติดตาม
ประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ กรณีปกติ รอบที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2565
ในพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และตรวจราชการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในระบบ Zoom Meeting ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และโดยการจัดส่งรายงานตามแบบรายงานฯ
ในพื้นที่จังหวัดตรัง และสตูล โดยมีหน่วยรับตรวจ คือ หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่
6 ทุกสังกัด
จากการลงพื้นที่ตรวจราชการฯ
และแบบรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน ในภาพรวม พบว่า หน่วยงาน/สถานศึกษา
มีการบริหารจัดการตามบริบทของพื้นที่ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุผลสำเร็จตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ
โดยสรุปผลการดำเนินงาน สภาพปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้
1.
ด้านการพัฒนาครูและการจัดการเรียนการสอน
1.1 การจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกระดับมีส่วนร่วมสร้างสรรค์การเรียนรู้
เพื่อให้เกิดสมรรถนะหลักและการพัฒนาตนเองตามความถนัดและความสนใจ (Active Learning) จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ
และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า หน่วยงานต้นสังกัดทุกแห่งในพื้นที่
สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะหลัก
ได้รับการพัฒนาตนเองตามความถนัดและความสนใจ โดยส่งเสริมให้สถานศึกษาสร้างนวัตกรรม
รูปแบบ หรือแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุกที่ดี ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (Covid-19) ที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทั้งรูปแบบการเรียนการสอน กิจกรรม/สื่อประกอบการเรียนการสอน
สถานที่ ตลอดจนการวัดและประเมินผล ยกตัวอย่างเช่น ครูในสังกัด สพป.ระนอง
ใช้วิธีการสอนแบบ Inquiry-based
Learning, Activity-based Learning, Project-based Learning และ PPP(Presentation, Practice and Production) วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีระนอง จัดทำศูนย์การเรียนรู้ภายในวิทยาลัยฯ
เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจ ซึ่งในปีการศึกษา 2564
วิทยาลัยฯ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ประเภทที่ 1
การดำเนินงานภายในวิทยาลัยดีเด่น ศูนย์การเรียนรู้ระดับภาค หรือโรงเรียนเยาวิทย์
จ.พังงา จัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นด้านทักษะชีวิตและทักษะอาชีพในรูปแบบของฐานการเรียนรู้
ได้แก่ ฐานการเรียนรู้นมแพะ ฐานการเรียนรู้ไก่ไข่ ฐานการเรียนรู้ปลาน้ำจืด
และฐานการเรียนรู้ผัก เป็นต้น โดยการจัดการเรียนการสอนดังกล่าวนี้ส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาในทุก
ๆ ด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา สามารถพึ่งพาตนเอง
และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข
ปัญหาและอุปสรรค
1)
ครูผู้สอนขาดทักษะที่จะกระตุ้นการเรียนรู้หรือดึงความสนใจของผู้เรียนผ่านการเรียนระบบ
On-Line
2) ผู้เรียนบางส่วนขาดอุปกรณ์การเรียนระบบ On-Line เช่น ไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ต
3) กิจกรรมการเรียนการสอนบางอย่างไม่สามารถดำเนินการผ่านระบบ
On-Line ได้
ส่งผลให้ผู้เรียนไม่ได้รับการฝึกฝนจากการปฏิบัติจริง
4) สถานศึกษาไม่สามารถสนับสนุนทรัพยากรในการสร้างสื่อเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างเต็มที่เนื่องจากงบบประมาณที่มีอยู่จำกัด
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1) ส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้รับการอบรมในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อให้เกิดทักษะในการจัดการเรียนการสอน
2) ปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนทุกคนได้เรียนรู้ตามบริบทของแต่ละคน
เช่น ผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ครูผู้สอนอาจมอบหมายใบงาน/ใบความรู้ เป็นต้น
3) สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับชุนชนในพื้นที่
เพื่อให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ
นวัตกรรม/รูปแบบ/แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ที่เป็นต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี
(Best Practice)
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก
Active Learning แบบรวมพลัง
5
ขั้นตอน
(Co–5
Steps) ผ่านการถอดบทเรียนร่วมกันโดยใช้
KUKID
Model ของโรงเรียนชุมชนบ้านเขากลม
อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
1.2 การจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองให้มีความทันสมัย
สอดรับกับวิถีใหม่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน
ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นและการเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ
และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า
สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองสอดรับกับวิถีใหม่
เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน
ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นและการเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง
เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง จัดทำกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น
พร้อมทั้งสนับสนุนสื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง สื่อวีดีทัศน์ และจัดทำหนังสือ
“ย้อนรอยเมืองเก่า เล่าเรื่องเมืองแร่นอง” ฝนแปด แดดสี่ สำหรับครูผู้สอนในสังกัด
หรือโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จ.สตูล
จัดการเรียนรายวิชาท้องถิ่นสตูล ในระดับชั้น ม.1-3 และรายวิชาธรณีโลกสตูล
ในระดับชั้น ม.1
ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถถ่ายทอดความรู้โดยการเล่าเรื่องราวและแสดงละครประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นสตูลในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่สาธารณชน
และแขกผู้มาเยี่ยม เป็นต้น
ปัญหาและอุปสรรค
1)
ครูผู้สอนไม่ใช่คนในท้องถิ่นหรือขาดทักษะในสาขาวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง
2) ขาดแคลนงบประมาณในการจัดหาสื่อ อุปกรณ์มาสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1)
ประสานความร่วมมือ/สรรหาปราชญ์ชาวบ้านเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน
2) จัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและการจัดทำสื่อการเรียนการสอนให้กับครูผู้สอนอย่างต่อเนื่อง
นวัตกรรม/รูปแบบ/แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองให้มีความทันสมัย
ที่เป็นต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี (Best
Practice)
1) หนังสือ “ย้อนรอยเมืองเก่า
เล่าเรื่องเมืองแร่นอง” ฝนแปด แดดสี่ ของ สพป.ระนอง
2) อุทยานธรณีสตูล
E-Book @ กศน.สตูล
1.3
การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภทให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทัล
รวมทั้งการจัดการเรียนการสอน
จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ
และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการส่งเสริม
พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและดิจิทัล โดยการอบรมทางด้านภาษาและเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในรูปแบบ
On-Site และ On-Line หลากหลายหลักสูตร อย่างต่อเนื่อง
เช่น หลักสูตร English for Communication หลักสูตร
English Foundation in Everyday Life หลักสูตร
Reading for comprehension หลักสูตร
English Discoveries หลักสูตร Basic Phonetics ของ
สพป.ระนอง การอบรมภาษาอังกฤษออนไลน์ของ Nyc
English (http://nycenglish.nyc/) ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง
จ.ตรัง การเข้าร่วมโครงการ Coding in
your area By PSU ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จ.สตูล
หรือการสนับสนุนให้ครูได้รับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษตามกรอบมาตรฐานทางภาษาอังกฤษ CEFR
โดยจัดตั้งศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคลากรสู่ความเป็นเลิศ HCEC จำนวน 3 ศูนย์ ได้แก่
โรงเรียนตะกั่วป่า “เสนานุกูล” จ.พังงา โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย จ.ภูเก็ต
และโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร จ.ระนอง ของ สพม.ภูเก็ต พังงา ระนอง
นอกจากนี้สถานศึกษายังได้จัดให้มีระบบอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน
เพื่ออำนวยความสะดวกให้ครูได้พัฒนาความรู้ความสามารถอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ มีความหลากหลาย และทันสมัย
ปัญหาและอุปสรรค
1)
ครูมีชั่วโมงการสอนจำนวนมาก ทำให้มีข้อจำกัดในด้านเวลาการอบรมหรือแสวงหาความรู้
2) สัญญาอินเตอร์เน็ตขาดความเสถียร
ทำให้เป็นอุปสรรคในการอบรมหรือการเรียนการสอน
On-Line
3)
ขาดแคลนงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์หรือซ่อมแซมอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้ทันสมัยพร้อมใช้งาน
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1)
จัดสรรเวลา/ชั่วโมงการสอนให้เอื้อต่อการแสวงหาความรู้ของครูผู้สอน
2)
ขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือด้านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
3)
ขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด หรือภาคีเครือข่ายเพื่อให้การสนันบสนุนงบประมาณ
1.4
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(หลักเกณฑ์ ว.9 (PA))
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ได้ประกาศหลักเกณฑ์การเประเมินวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเกณฑ์ใหม่
โดยกำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดทำแบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA)
ทุกปีงบประมาณ โดยเชื่อมโยงบูรณาการกับการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเลื่อนเงินเดือน การประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ
อย่างมีศักยภาพและสมรรถนะในการปฏิบัติงานขึ้นตามตำแหน่งและวิทยฐานะที่คาดหวัง
ซึ่งสถานศึกษาในเขตตรวจราชการที่ 6
ทุกแห่งได้ตระหนักและให้ความสำคัญโดยการจัดอบรมให้ความรู้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกปี
ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดทำบันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)
ที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียน
ส่งผลให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
ปัญหาและอุปสรรค
เนื่องจากเป็นหลักเกณฑ์ใหม่
อยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่าน ครูและบุคลากรทางการศึกษายังขาดความเข้าใจในหลักเกณฑ์
วิธีการประเมิน และแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
จัดอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจและการใช้งานระบบการประเมินวิทยฐานะดิจิทัล
เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ฯ ได้อย่างถูกต้อง
1.5
การขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) และศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา
(Center of Vocational Manpower Networking Management :
CVM) สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในเขตตรวจราชการที่
6 ดำเนินการขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา และศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาอย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบการดำเนินงานของ
สอศ. เช่น วิทยาลัยเทคนิคถลาง จัดตั้งศูนย์ฯ CVM
สาขาวิชาช่างอากาศยาน วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ตพัฒนาหลักสูตร ปวส.
สาขาช่างซ่อมบำรุงเรือ สาขางานเทคนิค ช่างซ่อมบำรุงเรือยอร์ช วิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต
ขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษาในสาขาวิชาเทคโนโลยีความงาม
สาขาอาหารเพื่อธุรกิจท่องเที่ยว สาขาอุตสาหกรรมบันทเทิง(หลักสูตรระยะสั้น) วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีระนอง
ได้ประเมินความเป็นเลิศทางวิชาการอยู่ในขั้น Expert
ในสาขาวิชาเกษตรศาสตร์ หรือวิทยาลัยเทคนิคตรัง
ประกาศจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น ส่งผลให้สถานศึกษาสามารถขับเคลื่อนสู่ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง
ปัญหาอุปสรรค
1)
ขาดแคลนครูผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
2)
งบประมาณในการพัฒนาการเรียนการสอนหรือฝึกประสบการณ์ให้ผู้เรียนมีจำกัด
ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่ต่อเนื่อง และไม่ทั่วถึง
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1) จ้างครูพิเศษที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน
2) แสวงหาความร่วมมือกับสถานประกอบการ
ชุมชน
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือทั้งในด้านงบประมาณและการฝึกประสบการณ์ให้กับผู้เรียน
นวัตกรรม/รูปแบบ/แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดการสถานศึกษา
ภายใต้ศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center)
และศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management
: CVM) ที่เป็นต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี (Best
Practice)
วิทยาลัยเทคนิคถลาง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จัดตั้งศูนย์
CVM สาขาวิชาช่างอากาศยาน
1.6
ความปลอดภัยของผู้เรียนโดยการสร้างสถานศึกษาปลอดภัย
และบริหารจัดการเชิงบูรณาการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19)
ประเด็นความปลอดภัยของผู้เรียน โดยการสร้างสถานศึกษาปลอดภัย
จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ
และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ
ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า สถานศึกษาทุกสังกัดดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ
เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ มอบหมายผู้รับผิดชอบ เข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม line จังหวัด และสมัครเข้าใช้งานระบบ
MOE Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
เพื่อร่วมกันสร้างสถานศึกษาปลอดภัยทั้งภัยจากยาเสพติด
ความรุนแรงทั้งทางกายและจิตใจ ภัยพิบัติต่าง ๆ อุบัติเหตุ โรคอุบัติใหม่ ฝุ่น PM 2.5
การค้ามนุษย์ การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน และภัยจากอาชญากรรมไซเบอร์ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
มีความสุข และได้รับการปกป้อง คุ้มครองความปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยระบบ
MOE Safety Center สามารถลดขั้นตอน ลดเวลา
มีความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาได้จริง
ปัญหาและอุปสรรค
1) ผู้เรียนบางส่วนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
หรือสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย เช่น ชุมชนแออัด สถานบันเทิง แหล่งอบายมุข
ฯลฯ
2) ขาดความร่วมมือจากผู้ปกครองในการดูแลเอาใจใส่ผู้เรียน
เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องทำงานนอกบ้าน
3) ขาดทักษะการใช้งานผ่าน Application
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1)
จัดการเรียนการสอน/จัดอบรมเพื่อสร้างความตระหนักให้กับผู้เรียนได้รับรู้ถึงผลเสียที่จะได้รับ
วิธีการหลีกเลี่ยง หรือป้องกันไม่ให้เกิดภัยต่าง ๆ กับตนเองและครอบครัว
2) สร้างเครือข่าย หรือกลุ่มไลน์ เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารกรณีมีผู้เรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับภัยต่าง
ๆ เพื่อหาทางช่วยเหลือได้ทันเวลา
3) จัดอบบรมให้ความรู้/ประชาสัมพันธ์การใช้งาน
Application
นวัตกรรม/รูปแบบ/แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้เรียนโดยการสร้างสถานศึกษาปลอดภัย ที่เป็นต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี (Best
Practice)
สพป.ระนอง จัดตั้งศูนย์ ฉก.ชน.สพป.ระนอง
เพื่อดูแลช่วยเหลือในด้านความปลอดภัยให้กับผู้เรียนภายใต้คำขวัญ “ดูแล ห่วงใย
ใส่ใจรอบด้าน”
2.
ด้านการสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันทางสังคม
2.1 การค้นหาเด็กวัยเรียนหลุดจากระบบการศึกษาและติดตามให้ความช่วยเหลือเข้าสู่ระบบการศึกษา
จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ
และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า สถานศึกษาได้ดำเนินการสำรวจ
ค้นหา ติดตามเด็กวัยเรียนที่หลุดระบบการศึกษาและออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาโดยบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานในพื้นที่
เพื่อนำผู้เรียนกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
ปัญหาและอุปสรรค
1) ปัญหาครอบครัว เช่น
รายได้ของครอบครัว การหย่าร้างของพ่อแม่ การย้ายถิ่นฐานของครอบครัวฯลฯ
2) ปัญหาด้านสุขภาพของผู้เรียน เช่น
มีโรคประจำตัว
3) พื้นที่ห่างไกล ยากลำบากในการเข้าไปสำรวจและติดตามผู้เรียน
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1) สถานศึกษาวางแผนการลงพื้นที่ร่วมกับชุมชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อติดตาม ค้นหาเด็กวัยเรียนหลุดระบบการศึกษา
และให้ความช่วยเหลือเข้าสู่ระบบการศึกษา
2) จัดหาทุนการศึกษาเพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้เรียนที่เรียนดีแต่มีฐานะยากจนให้ได้รับการศึกษา
3)
แนะแนวให้คำปรึกษาผู้เรียนกลุ่มเสี่ยงที่จะหลุดระบบการศึกษาเป็นรายบุคคล
2.2
การดูแลเด็กปฐมวัยด้วยการส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้พัฒนาการสมวัย
ได้รับโอกาสทางการศึกษาทั้งในและนอกระบบการศึกษา สถานศึกษาในเขตตรวจราชการที่
6 ที่ดูแลจัดการศึกษาให้กับเด็กปฐมวัย
ดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาสมวัย
มีโอกาสทางการศึกษาทั้งในและนอกระบบการศึกษาอย่างทั่วถึง
ไม่เว้นแม้แต่เด็กพิการซึ่งศูนย์การศึกษาพิเศษได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
ขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความพิการทั้ง 9 ประเภท
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ
สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย ความสามารถ และความแตกต่างระหว่างบุคคล
เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่วัยเรียน
ปัญหาและอุปสรรค
1) ผู้ปกครองไม่เห็นถึงความสำคัญของพัฒนาการเด็กปฐมวัย
รอจนเข้าสู่วัยเรียนจึงส่งเข้าระบบการศึกษา
2) เด็กพิการที่อยู่ในช่วงปฐมวัยส่วนใหญ่มีพัฒนาการไม่เป็นไปตามวัย
ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่เป็นไปตามพัฒนาการ
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1) ให้ความรู้กับผู้ปกครอง หรือชุมชน ได้ตระหนักถึงการดูแลเด็กปฐมวัยให้ได้รับพัฒนาการสมวัย
2)
ปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเด็กที่อยู่ในช่วงปฐมวัยให้ได้รับพัฒนาการที่สมวัย
2.3
การสร้างโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาสและผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทั้งในและนอกระบบการศึกษา จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ
ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า สถานศึกษาในเขตตรวจราชการ ที่ 6 มีการสร้างโอกาสและการเข้าถึงทางการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาสและผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทั้งในและนอกระบบการศึกษา
โดยผู้เรียนปกติส่วนใหญ่ มีผลการประเมินพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม
และสติปัญญา ผ่านเกณฑ์การประเมินพัฒนาการคุณภาพระดับ 3
ทั้ง
4 ด้าน
ปัญหาและอุปสรรค
1) ขาดแคลนครูผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
2) เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาสที่อยู่ห่างไกล
ทำให้ยากต่อการเข้าถึงการศึกษา
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1) ขอรับจัดสรรครูเฉพาะด้าน เพื่อดูแลพัฒนาผู้เรียนได้เต็มศักยภาพ
2) ประสานขอความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนมช่วยเหลือเด็กพิการและผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลหรือยากลำบากในการเดินทาง
3.
ด้านความร่วมมือ
3.1 การจัดการศึกษาแบบทวิภาคีสู่มาตรฐาน
ผ่านศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นที่
สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ในเขตตรวจราชการที่ 6
ดำเนินการจัดการศึกษารูปแบบทวิภาคี
โดยประสานความร่วมมือหรือทำบันทึกข้อตกลงกับสถานประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งนักศึกษาเข้าฝึกประสบการณ์
ตลอดจนมีการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสถานประกอบการในการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ
บริบทของพื้นที่ และทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (S-Curve) ได้อย่างมีคุณภาพ
เช่น วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง จ.ตรัง ได้ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศ
สนับสนุนนักศึกษาแผนกสัตวศาสตร์เข้าร่วมการสอบคัดเลือกโครงการนักศึกษาฝึกงานฟาร์มปศุสัตว์
ณ ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ปี 2565
ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
กับสำนักงานงาน Travel to Farm
ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดองค์การเกษตรของราชอาณาจักรเดนมาร์ก
โดยมอบหมายให้ครูประจำแผนกเป็นผู้รับผิดชอบในการกำกับ ดูแล ติดตาม
และรายงานความก้าวหน้าให้วิทยาลัยทราบเป็นปัจจุบัน และวิทยาลัยเทคนิคถลาง จ.ภูเก็ต
ได้ประสานความร่วมมือกับท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
สนับสนุนนักศึกษาสาขาช่างอากาศยานเข้าฝึกประสบการณ์ เป็นต้น
ปัญหาและอุปสรรค
1) ขาดแคลนครูผู้สอนที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
2) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ส่งผลให้ปีการศึกษา
2564 นักศึกษาไม่สามารถดำเนินการฝึกทักษะได้หลายหลายตรงกับสาขาวิชาที่เรียน
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1) ประสานความร่วมมือส่งครูผู้สอนเข้าฝึกประสบการณ์
ในการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถเพื่อนำกลับมาถ่ายทอดให้กับผู้เรียน
2) เชิญผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในหน่วยงาน/องค์กรต่าง
ๆ มาถ่ายทอดประสบการณ์ตรงให้กับผู้เรียน
3) นักศึกษาที่ได้เข้ารับการฝึกประสบการณ์ต้องดำเนินการภายใต้มาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย
3.2
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกช่วงวัยโดยการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย
และสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เพื่อการพัฒนาทักษะอาชีพ โดยการเพิ่มพูนทักษะ (Re-skill) พัฒนาทักษะ (Up skill) และการเรียนรู้ทักษะใหม่
(New skills) จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ
และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ
ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า สถานศึกษาดำเนินการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกช่วงวัยโดยจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย
สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพโดยการเพิ่มพูนทักษะ
(Re-skill) พัฒนาทักษะ (Up skill) และการเรียนรู้ทักษะใหม่
(New skills) ให้กับผู้เรียนผ่านสื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น Application
ต่าง
ๆ, Zoom,
Line, Facebook,
YouTube ฯลฯ หรือจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างทักษะพื้นฐานเชื่อมโยงสู่การสร้างอาชีพและการมีงานทำ
โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานจากภายนอก ผ่านกิจกรรม โครงงาน หรือโครงการ เช่น
หลักสูตรระยะสั้นต่าง ๆ
ปัญหาและอุปสรรค
1)
บุคลากรขาดทักษะ/ประสบการณ์ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนรู้
2) การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
ทำให้ต้องจำกัดรูปแบบการจัดการเรียนการสอน และจำกัดผู้เรียน
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1)
อบรมบุคลากรเพื่อพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย
2) ปรับรูปแบบการสอนหรือบางกิจกรรมเป็นแบบออนไลน์
แบ่งกลุ่มผู้เข้าเรียนเป็นกลุ่มย่อยและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่
ศบค.กำหนดอย่างเคร่งครัด
3) สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน
หรือหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่
4.
ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
4.1 การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการศึกษาทุกระดับการศึกษาที่เน้นการมีส่วนร่วม
และการส่งเสริมการฝึกทักษะดิจิทัลในชีวิตประจำวัน จากการลงพื้นที่สนับสนุนการตรวจราชการฯ
และจากรายงานผลตามนโยบายการตรวจราชการฯ ในเขตตรวจราชการที่ 6 พบว่า สถานศึกษาทุกแห่งได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากหน่วยงานต้นสังกัดในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
โดยเน้นการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการฝึกดิจิทัลในชีวิตประจำวันให้กับครูผู้สอน ซึ่งภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สถานศึกษาจำเป็นต้องจัดรูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลายทั้ง
On-Site, On-line, On Hand และ
On Demand เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความสะดวก
และมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน นอกจากนี้ สถานศึกษาได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรมอย่างต่อเนื่อง
เช่น อบรมการเรียนผ่านระบบ Zoom,
Google Classroom, การสร้างใบงานออนไลน์
การผลิตสื่อวิดีโอ สื่อสามมิติ เป็นต้น
ปัญหาและอุปสรรค
1)
สถานศึกษาบางแห่งขาดแคลนอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย
และไม่เพียงพอในการจัดการเรียนการสอน
2) ระบบอินเตอร์ขาดความเสถียร
หรือไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในสถานศึกษา
3)
ความพร้อมของผู้เรียนทั้งในด้านอุปกรณ์เทคโนโลยี
และผู้ปกครองที่ต้องคอยดูแลเมื่อนักเรียนเรียน On-line ที่บ้าน
หรือสัญญาณอินเตอร์ที่เข้าไม่ถึงในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล
การแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ
1)
ขอรับการสนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อจัดหาอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน
2)
ปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน
เพื่อให้ครอบคลุมการเรียนให้ได้มากที่สุด
3)
จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างสถานศึกษา เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์
ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
(นายธฤติ ประสานสอน)
ด้วยข้อจำกัดของงบประมาณ
และบุคลากรที่ขาดแคลนอยู่แล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านนี้เรายังต้องเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (Covid-19) ทำให้ยิ่งขาดแคลน
แต่ต้องขอบคุณการทำงานของทุกหน่วย ทุกผ่ายที่ทำงานกันเกิน 100%
และขอบคุณที่ร่วมกันขับเคลื่อนภาระกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(น.ส.ตรีนุช เทียนทอง) ทั้ง 5 ประเด็น คือ
1. พาน้องกลับมาเรียน/ปักหมุด
2. โรงเรียนคุณภาพ
3. อาชีวะอยู่ประจำเรียนฟรี มีอาชีพ
4. ความปลอดภัยสถานศึกษา MOE Safety Center
5. หนี้สินครู
โดยขอให้ศึกษาธิการจังหวัด
ซึ่งถือเป็นตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่เป็นประธาน ร่วมกันวางแผน
ดำเนินการเพื่อตอบสนองภารกิจเร่งด่วน
การบูรณาการร่วมกันระหว่าง 12 กระทรวง 1
หน่วยงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนทั้ง
5 ประเภท (รายได้, สุขภาพ, การศึกษา, ความเป็นอยู่ และการเข้าถึงบริการภาครัฐ)
โดยกลุ่มเปราะบางด้านการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ
ขอให้ร่วมกันจัดทำฐานข้อมูลในภาพรวมของจังหวัดเพื่อเร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัด
และขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์/รณรงค์การฉีดวัคซีนครู และกลุ่มเด็ก 5 – 11 ปีฯ
ให้ได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น
บันทึข้อมูลโดย: น.ส.น้ำฝน อินดู