ข้อสรุปของ ข้อสรุปการตรวจราชการของศึกษาธิการภาค บันทึกเมื่อวันที่ Date: 06 กันยายน 2564
ตรวจราชการจังหวัดศรีสะเกษ วันที่ 6 กันยายน 2564 เวลา 09.00 - 12.00 น.
ตรวจราชการโรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์
อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัด
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
มีผลการดำเนินงาน ดังนี้
การตรวจราชการกรณีปกติ
1.ด้านความมั่นคง
มีการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง
จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
มีการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ/กิจกรรมที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี การทำนุบำรุงศาสนา
และการร่วมมือร่วมใจเสียสละเพื่อความมั่นคง
ของประเทศส่งเสริมให้นักเรียนแสดงออกตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน
“ยิ้มสวย ไหว้งาม ปฏิบัติตามหลักคุณธรรม” หล่อหลอมให้นักเรียนมีคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ของสังคมตามปรัชญาของโรงเรียน “ความรู้ คู่คุณธรรม”
2. ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
เพื่อส่งเสริมพัฒนาผู้เรียนให้เพิ่มพูนทักษะ
(Re-skill) พัฒนาทักษะ (Up skill) การเรียนรู้ทักษะใหม่
(New
skills) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมส่งเสริมทักษะอาชีพที่หลากหลาย
อาทิเช่น ส่งเสริมการทำเกษตรพอเพียง
ส่งเสริมการนำอัตลักษณ์พื้นถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเป็นผลิตภัณฑ์โรงเรียนได้ทำกิจกรรมผ่านการเรียนการสอน เช่น ชุมนุมเบเกอรี่ ชุมนุมนักเกษตรน้อย
ชุมนุมจัดตกแต่งสวนหย่อม
ชุมนุมกีฬาและชุมนุมสร้างเกม การใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน(Project Approach)ซึ่งสถานศึกษาได้มี การจัดกิจกรรมวันวิชาการเพื่อให้นักเรียนทุกระดับชั้นได้นำเสนอ
โครงงานของตน
3.ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
มีการส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนมีการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาครู
ในด้านต่าง ๆ
ผ่านโครงการ/กิจกรรมในระดับเขตฯ ระดับโรงเรียน
เพื่อให้ครูได้เกิดองค์ความรู้และสามารถนำเทคนิควิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 เช่น โครงการพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้ โครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย โครงการสะเต็มศึกษา
โครงการพัฒนาครูด้านผ่านโครงการ/กิจกรรมในระดับเขตฯ ระดับโรงเรียน
เพื่อให้ครูได้เกิดองค์ความรู้และสามารถนำเทคนิควิธีการ
จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิตในศตวรรษที่
21 เช่น โครงการพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้
โครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย โครงการสะเต็มศึกษา โครงการพัฒนาครูด้าน Coding และโครงการนิเทศบูรณาการ ผลจากการพัฒนาครูผู้สอน
ส่งผลให้ครู
มีความรู้ ความเข้าใจมากยิ่งขึ้นผลจากการพัฒนาครูผู้สอน
ส่งผลให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
4. ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้
และใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือการเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศและใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือการเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ (Digital
Education Excellence Platform : DEEP) โรงเรียนได้มีการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ แบ่งออกเป็น
2 ส่วน ดังนี้
1)
ด้านบริหารจัดการโรงเรียนได้ใช้ MAS
SCHOOL ในงานหลัก ดังนี้ 1.
ระบบงานวิชาการ 2.
ระบบงานการเงินและบัญชี 3.
ระบบงานบุคลากรและเงินเดือน และระบบ MAS SCHOOL ยังได้พัฒนาระบบการทำงานออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของครูสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ
2)
ด้านการจัดการเรียนการสอน
สถานศึกษาได้ส่งบุคลากรเข้าอบรมการใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือจัดประสบการณ์
เพื่อพัฒนาด้านการใช้ ICT อย่างเชี่ยวชาญ
โดยมีการอบรมทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ซึ่งภายในได้มีการจัดอบรมด้าน การใช้ Microsoft Office เบื้องต้น
การสร้างบทเรียนออนไลน์จาก Google Site/Zoom/Google
Meet YouTube PowerPoint Line Facebook และการตัดต่อ Video โดย Capcut ส่งผลให้ครูและบุคลากรในแผนกปฐมวัย
สามารถสร้างบทเรียนออนไลน์ และสื่อการสอนที่ทันสมัยได้ด้วยตนเอง
การจัดการศึกษาเด็กปฐมวัย ได้มีกระบวนการบริหารจัดการอย่างมีระบบตามโครงสร้างการบริหาร ทั้ง 4 ฝ่าย มีการบริหารงานในรูปแบบ PDCA ซึ่งแผนกปฐมวัยได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น มีแผนพัฒนา แผนปฏิบัติการ และแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดปีการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีพัฒนาการครบทั้ง+ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ - จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยมีการนำรูปแบบการเรียนรู้ แบบโครงงานเป็นฐาน (Project Approach) STEM และการจัดประสบการณ์รูปแบบบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย มาบูรณาการในการจัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียนมีการประเมินพัฒนาการผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดยใช้เครื่องมือวัดและประเมินพัฒนาการเด็กที่หลากหลาย โดยการสังเกตพฤติกรรม การสัมภาษณ์ ประเมินผลงานเด็กตามสภาพจริง มีการบริหารจัดการด้านสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ
ความปลอดภัยของผู้เรียน โรงเรียนได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย ดังนี้ 1) ด้านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดโรงเรียนได้ทำการตรวจ
คัดกรองนักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ตลอดถึงการจัดอบรม
และจัดครูแดร์ (D.A.R.E) ตำรวจไทย
มาสอนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นการให้ความรู้และป้องกันเบื้องต้น
ทำให้นักเรียนมีความตระหนักและปลอดภัยยิ่งขึ้น
สำหรับปัญหาด้านชู้สาวได้ทำการอบรมอย่างต่อเนื่อง 2) ด้านความปลอดภัยจากยานพาหนะ
รถรับ-ส่งนักเรียน โรงเรียนได้มีการประชุมผู้ประกอบการรถรับ-ส่ง
ภาคเรียนละหนึ่งครั้ง เพื่อตรวจสอบยานพาหนะให้มีสภาพปลอดภัย
ตรวจอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ถังดับเพลิง ตรวจประวัติคนขับรถ 3) ความปลอดภัยด้านอาคารสถานที่
โรงเรียนจัดให้มีกล้องวงจรปิดตามจุดสำคัญต่าง ๆ พร้อมทั้งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบดูแลความเรียบร้อยปลอดภัย
เวรยามต่าง ๆ มีแผนการรับมือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน มีบริเวณที่สะอาดและปลอดภัยพร้อมทั้งห้องพยาบาล
มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด 4) ความปลอดภัยด้านอุปโภคบริโภค
จัดให้มีชมรมคุ้มครองผู้บริโภคในสถานศึกษา (อย.น้อย) เพื่อตรวจสอบสารปนเปื้อนในอาหาร
จัดทำความสะอาด รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย จัดการบำบัดน้ำเสีย 5) ความปลอดภัยจากเชื้อไวรัส COVID-19 โรงเรียนได้มีมาตรการตรวจคัดกรองวัดไข้ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอจัดให้มีการเว้นระยะห่าง 1 - 2 เมตร
ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสร่วม ลดความแออัดและดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด 6) ความปลอดภัยด้านสื่อเทคโนโลยี
โรงเรียนได้มีการประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนและผู้ปกครองได้เข้าถึงสื่อเทคโนโลยี
ดิจิทัล อย่างถูกต้อง
การตรวจราชการกรณีพิเศษ
การจัดการเรียนการสอนและมาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีการประชุมวางแผนการดำเนินงานเพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนัก
ให้กับคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)จัดทำประกาศโรงเรียน เรื่อง
มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์
ปีการศึกษา พ.ศ. 2564 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงเรียนได้จัดการเรียนการสอนแบบ ON
SITE, ON HAND, ON LINE ภายใต้คำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ดำเนินการมาตรการหลัก 6 ประการ 1) D DISTANCING เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล
อย่างน้อย 1-2 เมตร 2) สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในสถานศึกษา MASK
WEARING 3) ล้างมือ HAND WASHING ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่นาน 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ 4)
ตรวจคัดกรอง วัดไข้ก่อนเข้าภายในอาคารเรียน TESTING 5) ลดการแออัด REDUCING 6) ทำความสะอาด CLEANING บริเวณพื้นผิวสัมผัสร่วม และ 6 มาตรการเสริม คือ (1) ดูแลตนเอง SELF-CARE ดูแลใส่ใจปฏิบัติตนมีวินัยรับผิดชอบตนเองปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด (2) ใช้ช้อนส่วนตัว SPOON ใช้ช้อนกลางทุกครั้งเมื่อต้องทานอาหารร่วมกัน
ลดสัมผัสร่วมกับผู้อื่น (3) กินอาหารปรุงสุกใหม่ EATING (4) THAICHANA ลงทะเบียนด้วยแอปพลิเคชั่น
(5) สำรวจนักเรียน ตรวจคัดกรอง CHECK สำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยง
เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง (6) กักกันตัวเอง QUARANTINE กักกันตัวเอง 14 วัน
เมื่อสัมผัสหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดของโรค
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งในเขตอำเภอกันทรลักษ์
และอำเภอใกล้เคียงที่มีนักเรียนอยู่ในพื้นที่การระบาดรุนแรงทำให้ไม่สามารถเรียน ON
SITE ที่โรงเรียนได้
ปัญหาอุปสรรค
1.มีครูจำนวนมากยังขาดทักษะด้าน ICT จึงทำให้การรับรู้ข้อมูล
หรือมีแหล่งค้นคว้าข้อมูล น้อยกว่านักเรียน
นอกจากนี้สื่อการสอนที่มีแค่หนังสือหรือตำราอาจตอบสนองการรับรู้
และความต้องการของนักเรียนในศตวรรษที่
21 ได้ไม่เต็มที่
2.ครูบางคนไม่กล้าเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาตนเอง
เพื่อนำมาใช้จัดกระบวนการเรียนการสอน
3.การใช้งานระบบแพลตฟอร์มดิจิทัล
ยังไม่เหมาะสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา
และนักเรียนชั้นประถมศึกษายังไม่มีความพร้อมด้านการใช้อีเมล์
ในการเข้าระบบการเรียนรู้ต่าง ๆ
4.เด็กนักเรียนยังขาดความพร้อมในการเรียนทางออนไลน์
ไม่มีสมาธิในการเรียน ไม่สามารถเรียนด้วยตนเองได้ขาดแรงจูงใจในการเรียน
ข้อเสนอแนะ
1.ควรมีการส่งเสริม สนับสนุน
จัดการอบรมพัฒนาความรู้ด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรให้มีคุณภาพในด้านการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
2.ส่งเสริมสนับสนุนให้ครู
บุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาทางการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล
มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากสื่อการเรียนรู้
ทางดิจิทัลควรเป็นสื่อที่ทันสมัย
และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้สื่อเหล่านี้ได้ทันต่อยุคปัจจุบัน
3. ควรมีการนิเทศติดตามผลการอบรม
และการนำไปใช้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
นวัตกรรม/ต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี (Best Practice)
1.การบูรณาการรูปแบบการสอนโดยรูปแบบโครงงานเป็นฐาน
(Project Approach)
2.โรงเรียนมีระบบแพลตฟอร์มดิจิทัล
ครอบคลุมทุกงานนวัตกรรม/ต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี (Best
Practice)
3.การสร้างบทเรียนออนไลน์จาก Google Site/Zoom/Google Meet YouTube และ PowerPoint และเผยแพร่บทเรียนออนไลน์ทางสื่อ Social ได้แก่ Group Line ของห้องเรียน
และ Facebook ของโรงเรียนและของแผนกปฐมวัยโรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์
ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการ
1. โรงเรียนเอกชน
ควรจะมีคุณภาพในการจัดการเรียนการสอน สูงกว่าโรงเรียนรัฐบาล
เนื่องจากมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของการนักเรียน ครูผู้สอน
ผู้ปกครอง และอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งทางโรงเรียนพร้อมสนับสนุน และผู้ปกครองก็มีความพร้อมในการสนับสนุน
ดังนั้นโรงเรียนเอกชนจึงมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากกว่า
2.จังหวัดนำร่องพื้นที่นวัตกรรม
จะต้องดำเนินงานให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของจังหวัด
เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในพื้นที่ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
3.การจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ
ควรจะจัดการเรียนการสอนแบบ On site แต่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันต้องจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามบริบทของพื้นที่ให้เป็นไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
อย่างเคร่งครัด
บันทึข้อมูลโดย: น.ส.สุกัลยา ประเสริฐ และ น.ส.อัญญารัตน์ รัตนา